ทำความรู้จักกับ ออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรมคือกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อพังผืดรวมไปถึงอาการปวดอักเสบของเนื้อเยื่อและเส้นเอ็น อาการชาปวดจากปลายประสาทที่ถูกกดทับ อาการเหล่านี้จะพบได้บ่อยในผู้ที่นั่งทำงานในออฟฟิศ และมีสาเหตุหลายปรการทำให้เกิดโอกาสมีอาการดังที่กล่าวมาได้แก่ การบาดเจ็บจากงานซ้ำๆ ระยะเวลาในการทำงานที่มากเกินไปนั้นจะส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการล้าเช่น การใช้ข้อมือซ้ำๆ ในการใช้เมาส์ ก็จะทำให้เกิดอาการอักเสบของเอ็นบริเวณที่ข้อมือหรือผังผืดเส้นประสาทบริเวณข้อมือ
ลักษณะท่าทางของการทำงานเช่นลักษณะท่าทางในการนั่งทำงาน การวางศอก และมือบนโต๊ะทำงานที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะท่านั่งเวลาที่เราเปิดxvideos ซึ่งคนที่ดูxvideosส่วนใหญ่จะก้มหน้าและงอหลัง
มีสิ่งแวดล้อม การทำงานที่ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมเช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์มีแสงสว่างในห้องทำงานมากเกินไป เวลาดูxvideosก่อให้เกิดความเสี่ยง รวมถึง ลักษณะของโต๊ะทำงาน

อาการของออฟฟิศซินโดรมนั้นไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว
อาการปวดกล้ามเนื้อเนื้อเยื่อผังผืดโดยเฉพาะปวดบริเวณ บ่า คอ สะบัก ในแต่ละครั้งนั้นจะส่งผลทำให้เกิดอาการของระบบประสาทอัตโนมัติร่วมด้วยได้แก่ เหงื่อออก วูบ หูอื้อมึนงง ตาพร่ามัวชา เป็นต้น
มีการอักเสบของเส้นเอ็นบริเวณข้อศอกนิ้วมือข้อมือเช่น นิ้วล็อค และมีการอักเสบของเอ็นที่โคนนิ้วโป้ง มีการกดทับปลายประสาททำให้เกิดอาการชา รวมไปถึงการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ หรือถ้าหากมีอาการที่รุนแรง ได้แก่ พังผืดทับเส้นประสาทบริเวณข้อศอก พังผืด เอาเส้นประสาทข้อมือ ทำให้รู้สึกเจ็บแปล๊บเวลาขยับตัวเมื่อดูxvideos

ประเมินโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นออฟฟิศซินโดรม
ถ้าคุณเป็นคนที่นั่งทำงานที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
ในระหว่างวัน ในการทำงานมีอาการรู้สึกปวดเมื่อยบริเวณต้นคอ ไหล่บ่าหลังเอวอยู่เป็นประจำ
มีความรู้สึกตาพร่ามัว หัวมีอาการตื้อๆ อ่านหน้าจอไม่ชัดเจนในระหว่างการทำงานเป็นบางครั้ง และคำตอบของคุณส่วนใหญ่คือใช่ นั่นหมายถึงว่าคุณมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นออฟฟิศซินโดรม

วิธีการป้องกัน
ออฟฟิศซินโดรมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ กับคนในวัยทำงานในปัจจุบันลักษณะของงานที่ต้องทำในชีวิตประจำวันแต่เราก็มีวิธีที่ป้องกันได้เช่นกัน ดังนี้
การออกกำลังกายหรือยืดกล้ามเนื้อ อย่างสม่ำเสมอเช่นยืดกล้ามเนื้อระหว่างในระหว่างเวลาทำงาน หรือเล่นโยคะเป็นต้น
เปลี่ยนพฤติกรรมการทำงาน และ ยืดเส้นคลายกล้ามเนื้อ ระหว่างทำงาน เปลี่ยนอิริยาบถท่านั่งบ่อยๆเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
หากทำงานกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ควรจะพักสายตาอย่างน้อยทุกๆ 10 นาที

วิธีบอกรักหวานใจแบบไม่ต้องเอ่ยปากว่ารัก รับประกัน คนฟังฟินชัวร์

หลายคนอาจจะเบื่อวิธีการบอกรักเดิม ๆ ก็คงอยากจะหาวิธีใหม่ ๆ มาให้ได้น่าเร้าใจน่าตื่นเต้นใช่ไหมล่ะคะ เหมือนกับการxxx ถ้าน่าเบื่อ ไม่ตื่นเต้น มันก็คงจะไม่ใช่การxxxที่น่าสนุกนักใช่ไหมล่ะคะ ขอเปรียบเทียบเรื่องxxxหน่อยเถอะค่ะ (ฮา) เอาล่ะ หลายคนเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า การบอกรักเหตุใดจึงเป็นสิ่งที่ยากเหลือเกิน หลายคนปรารถนาจะแสดงความรักกับคู่รัก แต่ไม่กล้าเอ่ยคำรักด้วยความขัดเขิน ความรักซึ่งเป็นความรู้สึกแสนพิเศษของชีวิตอาจเป็นได้แค่สิ่งที่เก็บไว้ในใจ หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากบอกรัก โดยไม่มีคำว่ารัก จะมีวิธีใดบ้างที่เผยความรู้สึกนี้ให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ วันนี้เรามีทางออกมาแนะนำกันค่ะ รับรองว่าทำตามนี้แล้วอีกฝ่ายจะต้องรู้แน่ชัดว่าคุณรักเขามากสุดหัวใจแน่นอน

นิสัยแบบไหนที่ไม่ควรเอามาเป็นคู่ชีวิต

หลายคนก็คงจะเคยฟังจากรายการวิทยุดัง ๆ หรือว่าสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับความรักที่แสนเศร้าของหลาย ๆ คนเชื่อเลยว่าคุณต้องมีความรู้สึกใจหายเกี่ยวกับประสบการณ์ของคนเหล่านั้นแน่นอนซึ่งบางครั้งเราเองก็มัดจะรู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรหรือว่าเรากำลังเจอกับอะไรอยู่แต่เราก็ไม่สามารถที่จะดึงตัวเองออกมาจากจุดนั้นได้วันนี้เราจึงได้รวบรวมเอานิสัยต่าง ๆ ที่มันไม่น่ารักเลยสักนิดถ้าเจอคนแบบนี้ไม่ควรจะนำมาเป็นคู่ชีวิตเลยเด็ดขาดถึงแม้ว่าเขาจะจะเป็นคนที่ทำเรื่องบนเตียงได้เก่งเหมือนกับพระเอกหนังโป๊2021 แต่คุณอย่าลืมว่าคุณไม่ใช่นางเอกหนังโป๊2021 ที่ต้องการแค่เซ็กส์คุณต้องการการใช้ชีวิตคู่ในหนังโป๊2021 ไม่เคยมีการใช้ชีวิตจริงร่วมกันถ้าคุณจะหาแฟนแค่เซ็กส์ผู้ชายที่เก่งแบบในหนังโป๊2021 ก็อาจจะเหมาะกับคุณก็ได้แต่ถ้าคุณอยากได้คนที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกับคุณผู้ชายแบบในหนังโป๊ 2021 ก็คงจะไม่เหมาะกับคุณหรอก
ข้อที่หนึ่งเขาเห็นแก่ตัว คนเราไม่สามารถรักกับคนที่เห็นแก่ตัวได้ทุกคนนะถึงแม้ว่าคุณจะรู้สึกว่าคุณรักเขามากเหลือเกินและเขาเองก็เคยทำสิ่งดี ๆ ให้คุณเหมือนกันแน่นอนว่าทุกคนต้องเคยมีอยู่แล้วแต่คุณต้องลองบวกลบคูณหารให้ดีซะก่อนนะว่าไอ้สิ่งที่เขาทำกับคุณเขากำลังเอาเปรียบหรือเห็นแก่ตัวอยู่หรือเปล่ามันคุ้มค่าจริง ๆ หรือไม่และมันเป็นสิ่งที่คุณควรได้รับจริง ๆ ใช่มั้ยเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นและคุณเริ่มรู้สึกว่าคุณนั้นทนไม่ไหวแล้วรู้สึกว่าเขาไม่ใช่ถอยออกมาตอนนี้ก็ยังทันนะไม่มีคำว่าสายเกินไปหรอก
ข้อที่สองเขาขี้โกหก คนรักกันจะไม่โกหกกันแน่นอนไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ในความเป็นจริงแล้วหากวันใดวันหนึ่งคุณจับได้ว่าแฟนของคุณนั้นโกหกแล้วคุณก็ได้ให้เวลาเขาให้เขาได้กลับตัวกลับใจ แต่ในความจริงแล้วสิ่งที่เขาได้ดกหกคุณไปนั้นมันก็ยังติดค้างอยู่ภายในใจของคุณอยู่ดีความเชื่อใจที่เคยมีมันก็ต้องค่อย ๆ หมดลงไปดังนั้นความสัมพันธ์ที่เป็นพิษแบบนี้คุณยังจะอยากรักษาไว้อีกเหรอ
ข้อที่สามทำร้ายร่างกาย ข้อนี้สาว ๆ ทุกคนควรที่จะปักหมุดไว้เลยรู้หรือเปล่าว่าการที่คุณได้คู่รักที่ดีก็เหมือนกับการที่คุณถูกหวยรางวัลที่หนึ่งแต่ในความเป็นจริงเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคู่ของเราเขามีนิสัยแบบไหนเขาชอบลงไม้ลงมือชอบทำร้ายร่างกายให้คุณเจ็บหรือเปล่ามันก็ต้องรอเวลาที่เขาได้เจอเรื่องที่ทำให้เขาโมโหที่สุดจนเขาต้องเผยธาตุแท้ของเขาออกมา ในตอนนั้นถ้าหลังจากที่เขาทำร้ายร่างกายคุณแล้วเขากลับมาขอโทษกลับมาขอโอกาสแก้ตัวบอกคุณว่าจะไม่ทำอีกแล้วให้ระวังไว้ได้เลยว่าพอเขาได้ทำร้ายร่างกายคุณครั้งหนึ่งแล้วมันก็ต้องจะมีครั้งที่สองครั้งที่สามตามเรื่อย ๆ อีกแน่นอนและสุดท้ายคนที่เจ็บยิ่งกว่าคุณจะเป็นใครไปล่ะนอกซะจากพ่อแม่ของคุณนั่นเองถ้าไม่สงสารตัวเองก็ควรที่จะสงสารพ่อแม่คุณบ้างเลิกได้ก็เลิกเถอะถ้าเจอผู้ชายแบบนี้

สิ่งเหล่านี้คู่รักควรเลิกทำ ไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์แย่ลงแน่ ๆ

ความรักนั้นเป็นความสัมพันธ์ของคน 2 คนที่สวยงามเสมอ แต่ใช่ว่าความรักจะมีแต่ด้านที่สวยงามอย่างเดียว เพราะความรักที่มากล้นเกินไปนั้นก็สามารถทำให้คนเราทำอะไรไร้เหตุผล หรือทำบางอย่างที่มากเกินไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเอาได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพฤติกรรมแย่ ๆ และมักทำให้ความรักจบลงโดยไม่รู้ตัว วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าพฤติกรรมไหนบ้างที่ควรเลิกทำซะตอนนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ความรักของเราไปถึงจุดจบที่ไม่อยากเจอเสียก่อนในตอนที่ทุกอย่างมันสายเกินไป
สนใจเรื่องอดีตมากเกินไป
การสนใจหมกมุ่นอยู่กับอดีตของอีกฝ่ายนั้นมันก็เหมือนกับการฟื้นฝอยหาตะเข็บ ทั้งที่ความจริงแล้วเราควรจะอยู่กับปัจจุบัน อีกฝ่ายจะเคยxxxกับใครมาในอดีตก็ปล่อยเขาไป เพราะว่าในตอนทะเลาะกันคุณจะเอาเรื่องเก่า ๆ มาพูด ซึ่งจะยิ่งทำให้ทะเลาะกันและคุยกันยากกว่าเดิม และยังเป็นการบั่นทอนจิตใจซึ่งคนเราทนอะไรแบบนี้ไม่ได้นานหรอก ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ความสัมพันธ์จบก็ต้องเลิกนิสัยนี้แล้วล่ะ
ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว
เพราะถึงจะเป็นแฟนกันก็ควรมีช่องว่าง มีอิสระให้กันบ้าง เพราะมันหมายถึงความไว้เนื้อเชื่อใจ เรื่องจากความนึกคิดและสังคมที่ต่างกัน เราจึงควรที่จะเช็คดูนะว่าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายมากไปหรือเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็แนะนำให้หยุดตั้งแต่ตอนนี้
เปรียบเทียบเรื่องเงิน
ความแตกต่างเรื่องรายได้นั้นไม่ควรอย่างยิ่งที่จะถูกนำมาเป็นประเด็นเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนที่มีมากกว่าก็ตาม เพราะว่ามันจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ ไม่มีความสุข จนทำให้เลิกราหันไปได้ถ้ายังขืนเป็นแบบนี้ต่อไป
คาดหวังสูงเกินไป
เป็นธรรมดาที่เวลาเรารักใครก็คาดหวังจะมีอนาคตที่ดี หรือได้รับความรักที่ดีตอบแทน แต่บางคนนั้นก็ไม่ค่อยแสดงออกหรือแสดงออกไม่เก่ง ก็อาจทำให้คุณคิดไปไกลถึงไหนต่อไหน แต่ความจริงคือเราควรที่จะดูที่การกระทำ ไม่ว่าจะเป็นความห่วงใย ซื่อสัตย์ไม่ไปxxxคนอื่น เสมอต้นเสมอปลายฯ สิ่งเปล่านี้เป็นตัวบอกถึงความรักได้ดีกว่าอย่างอื่นเอามาก ๆ
หึงหวงเกินไป
แน่นอนว่าเรารักของเราเราก็ต้องหวงของเรา แต่ถ้าคุณหึงมากเกินไปมันก็จะก่อให้เกิดความรำคาญให้อีกฝ่าย จนอาจทำให้ความสัมพันธ์จบลงได้ อย่างกลัวว่าเขาจะไปxxxคนอื่นจนต้องโทรจิกตลอด หรือโวยวายตอนอีกฝ่ายออกไปเที่ยว และอีกหลาย ๆ อย่างที่เป็นการหึงหวงมากจนเกินเหตุไป แบบนี้ไม่แปลกเลยล่ะถ้าอีกฝ่ายจะไม่ทน ที่แปลกก็คือทำไมอีกฝ่ายถึงทนมาได้ตลอดต่างหาก

ผู้ชายคนนี้เขากลัวการผูกมัดจริงหรือไม่

คุณเคยคุยหรือเจอกับผู้ชายคนนึงที่คุณดูออกชัดเจนว่าเขาสนใจและก็ชอบคุณมาก ๆ แถมเคมีของคุณสองคนยังตรงกันและเข้ากันได้ดีอีกด้วย แต่เขาคนนั้นก็ไม่ยอมจริงจังกับคุณสักทีนึงและเขาก็ไม่ค่อยที่จะโอเคกับคุณสักเท่าไหร่ทั้ง ๆ ที่คุณเข้ากันได้ดีมาก ๆ นั่นอาจจะเพราะเขาคนนั้นยังไม่พร้อมหรืออีกสิ่งหนึ่งที่มีโอกาสเป็นไปได้นั้นก็คือเขาคนนั้นกลัวการที่จะโดนผูกมัด และในวันนี้เพื่อที่จะช่วยให้คุณได้เข้าใจสถานการณ์และรู้ว่าตัวเองต้องทำยังไงต่อจากนี้วันนี้เราจะมาบอกว่าผู้ชายคนนั้นเขากลัวการผูกมัดจริงหรือเปล่า

นิสัยแบบไหนควรเลิกให้ได้ก่อน 30

คนเรายิ่งโตขึ้น ความคิดความเข้าใจหรือแม้แต่กระบวนการการทำงานก็เปลี่ยนไปด้วย เวลาที่เราได้ทำงานกับผู้ใหญ่จะสามารถสังเกตได้เลยว่าเขาจะทำงานเป็นระบบ และมีความคิดหรือการวางตัวที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากๆ จนเราเองต้องย้อนกลับมามองตัวเรา ว่ามีอะไรที่ควรปรับปรุงหรือไม่ นี่เป็นคำแนะนำจากทีมงานของเรา ว่านิสัยไหนควรเลิกให้ได้ ก่อนจะอายุ 30 ยิ่งในวันที่คุณอายุมากขึ้นไป นิสัยบางอย่างอาจจะทำให้คุณดูไม่ดีได้เลย มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

อาหารที่ช่วยบำรุงสายตา

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปเทคโนโลยีใหม่ๆก็เริ่มเข้ามา สำหรับคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียนหรือวัยทำงาน ก็จำเป็นที่จะต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในระยะเวลานานๆแม่ไม่ได้ทำงานในคอมพิวเตอร์ก็ตามก็ยังมีโทรศัพท์มือถือที่เป็นเพื่อนคู่กาย แน่นอนว่า การที่เพื่อนๆทุกคนเอาแต่จ้องอยู่ที่คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือวันๆดูแต่คลิปโป๊ก็อาจจะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพทางด้านสายตาได้ ดวงตาของเรา เป็นอวัยวะที่สำคัญมากภายในร่างกาย ดังนั้นแล้วเราควรที่จะบำรุงรักษาให้ดวงตาของเราอยู่กับเราไปได้นานที่สุด เพราะด้วยวัย ยิ่งมีอายุที่สูงมากขึ้นดวงตาก็เริ่มที่จะถดถอยลง แล้วยิ่งในสมัยปัจจุบันนี้ เราจำเป็นที่จะต้องอยู่กับแสงสีฟ้า ของจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอด ดังนั้นแล้ว หากเราเลือกรับประทานอาหาร ก็อยากให้เลือกที่เป็นอาหารที่สามารถบำรุงสายตาของเราได้ หรือซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไป ดังนั้น ต่อไปนี้ดิฉันจะพูดถึงอาหารที่เป็นอาหารบำรุงสายตา หรืออาหารที่เป็นประโยชน์ต่อดวงตาของเรา แล้วอาหารที่ว่านั้นมีอะไรบ้างนะมาดูได้เลยค่ะ
ประการแรก ผลไม้ที่อยู่ในตระกูลเบอร์รี่ ข้อนี้ถือว่าเป็นข้อที่เบสิคที่สุดเพราะทุกๆคนมักจะรู้อยู่แล้วว่าผลไม้ที่อยู่ในตระกูลเบอร์รี่นั้น เป็นตัวบำรุงสายตาชั้นดี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มีอะไรบ้างอาทิเช่นราสเบอรี่ บลูเบอรี่ สตอเบอรี่ โกจิเบอร์รี่ เชอรี่ และอะไรอีกหลายอย่าง ทราบแล้วหมายความว่า ทำไมผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ถึงได้มีส่วนช่วยในเรื่องการบำรุงสายตาได้อย่างยอดเยี่ยมเพราะใน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั้นอุดมไปด้วยวิตามินซีวิตามินเอและยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งที่กล่าวมานั้น ต่างก็เป็นตัวช่วยที่ เข้าไปซ่อมแซมดวงตา หรือบำรุงดวงตาของเรา และช่วยลดความเสี่ยงในโรคต่างๆที่เกี่ยวกับสายตาของเราอีกด้วย
ประการที่สอง แครอท ในเรื่องการบำรุงสายตาแล้วถือว่าแครอทก็เป็นตัวช่วยที่ดี เพราะสารอาหารที่อยู่ในแครอทอาทิเช่น Vitamin A Routine ต่างก็เป็นตัวช่วยในเรื่องการปกป้องการมองเห็นของดวงตา และยังช่วยบำรุงให้ดวงตาของเพื่อนๆมีความสดใสอีกด้วย
ประการที่สาม ผักใบเขียว ซึ่งในผักใบเขียวน้ำมีสารอาหารที่ชื่อว่าเจ้าสารลูทีนและมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องดูแลบำรุงสายตาของเพื่อนๆและยังมีวิตามินเอที่ขึ้นชื่อว่าเป็นวิตามินที่สามารถบำรุงสายตาได้อย่างดีเยี่ยม และในผักใบเขียวยังสามารถป้องกันไม่ให้เพื่อนๆเป็นโรคต้อชนิดต่างๆ อาทิเช่นต้อหิน ต้อกระจก เป็นต้น
ประการที่สี่ อัลมอนด์ ซึ่งในอัลมอนด์ประกอบไปด้วยวิตามินอีซึ่งเป็นตัวช่วยที่สามารถบำรุงสายตาได้อย่างดีเยี่ยมและยังช่วยป้องกันความเสื่อมสภาพของเซลล์จอประสาทตา รู้อย่างนี้แล้วเพื่อนๆควรจะรับประทานอัลมอนด์อย่างต่อเนื่อง เป็นประจำทุกๆวัน อย่างน้อยวันละ 1 กำมือ
ประการที่ห้า ปลาแซลมอน เชื่อว่าเป็นอาหารจานโปรดของเพื่อนๆหลายๆคน ในปลาแซลมอนมีวิตามินอี และยังมี DHA ที่สามารถช่วยให้ดวงตาของเพื่อนๆมีความชุ่มชื้นไม่มีอาการตาแห้งอีกด้วย
ประการที่ห้า ไข่ ในไข่มีลูทีนอยู่ซึ่งลูทีนมีส่วนช่วยบำรุงให้ดวงตาของเพื่อนๆมีความแข็งแรงขึ้นและยังช่วยป้องกันโรคต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับดวงตา